ในซื้อของออนไลน์หนึ่งช่องทางยอดนิยมนักช้อป การขายสินค้าออนไลน์ไม่ได้ยากลำบากเหมือนเมื่อก่อน มีผู้ให้บริการตลาดขายสินค้าออนไลน์อยู่หลายราย การนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายได้ง่าย วันนี้มีเทคนิคออกแบบหน้าร้านบน Shopee และ Lazada เป็น checklist ดังนี้
ตั้งชื่อร้านให้รู้ว่าเป็นแบรนด์ของคุณ
ชื่อร้าน เป็นปราการด่านแรกที่จะทำให้ลูกค้ารับรู้ สำหรับเทคนิคการตั้งชื่อร้านค้าให้ดึงดูดมีหลากหลายวิธี คือ ชื่อร้านต้องเป็นคำสั้นๆ ประมาณ 2-5 พยางค์ ซึ่งอาจจะใส่ไอเดียสร้างคำที่สื่อถึงสินค้าที่ขาย เช่น ขายเฟอร์นิเจอร์อาจจะตั้งชื่อร้านว่า Wood Lover ที่แสดงให้เห็นถึงชื่อแบรนด์ และสินค้าที่ขายว่าคืออะไร
ตกแต่งหน้าร้านให้น่าดึงดูด
การขายสินค้าผ่านหน้าแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada มีข้อดีอยู่ตรงที่ผู้ประกอบการสามารถออกแบบหน้าร้านได้ตามไอเดียของตัวเอง ผู้ประกอบการควรดีไซน์ให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยการทำแบนเนอร์ โดยเป็นรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาด้วยวิธีนำรูปภาพ หรือวิดีโอมาโปรโมตโปรโมชั่น/แคมเปญ บนหน้าร้านค้าของผู้ประกอบการ
รวมถึง Landing Page ที่เป็นหน้าที่สร้างขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์การขายสินค้า ซึ่งจะไปปรากฏตามหน้าต่างๆ บนแพลตฟอร์ม โดยเมื่อมีคนคลิกก็จะเข้ามาที่หน้าร้านของคุณทันที นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคการไดคัต เป็นการตกแต่งรูปด้วยการตัดขอบตามรูปทรง ที่จะทำให้สินค้ามีความโดดเด่น สร้างความสวยงามให้กับผู้พบเห็น
อีกทั้งการดีไซน์หน้าร้านนั้นก็ควรคุมโทนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสร้างความดึงดูดให้กับลูกค้าเวลาเข้ามาเลือกซื้อสินค้า หากผู้ประกอบการตกแต่งหน้าร้านที่สื่อถึงแบรนด์สินค้ามากเท่าไหร่ ผู้ซื้อก็จะเข้าใจความแตกต่างในร้านของคุณมากเท่านั้น
บอกรายละเอียดสินค้าให้ชัดเจน
เรื่องที่ควรตระหนักเป็นอย่างมากก็คือ ด้วยความที่ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ คือลูกค้าไม่สามารถเห็นสินค้าจริง ดังนั้น ผู้ประกอบการควรระบุข้อมูลรายละเอียดของสินค้าชิ้นนั้นให้ครบถ้วน หากขายเสื้อผ้าควรบอก ขนาดไซซ์ สินค้า ความกว้าง ความยาว เงื่อนไขการรับประกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับลูกค้า
สุดท้าย การรีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าไปแล้วก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้รู้ว่าสินค้าของผู้ประกอบการได้รับความชื่นชอบมากแค่ไหน ซึ่งหากได้รับคำชมย่อมเป็นเรื่องที่ดีกับผู้พบเห็น และชั่งใจว่าจะเลือกซื้อสินค้านี้ดีหรือไม่
จัดโปรโมชั่น ร่วมโปรโมชั่น
การจัดโปรโมชั่นให้กับสินค้า เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ใช้สำหรับการกระตุ้นยอดขายให้กับร้าน ผู้ประกอบการอาจจะใช้การแจกคูปองส่วนลดมอบให้กับลูกค้า หรืออาจเข้าร่วมแคมเปญกับแพลตฟอร์ม อย่างเช่น เทศกาลลดราคาสินค้า ที่กำหนดเวลาเป็นวันใดวันหนึ่งของเดือนนั้น เช่น เทศกาลลดราคาสินค้า 9 เดือน 9 เป็นต้น
Active ตลอดเวลา
ถึงจะเป็นร้านค้าออนไลน์แต่ก็ต้องคอยมอนิเตอร์ร้านค้าอยู่เสมอ ลูกค้าถามปุ๊บตอบปั๊บ เช่น เมื่อมีลูกค้าเข้ามาสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้า ผู้ประกอบการควรจะตอบกลับในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับลูกค้าที่ว่าตนเองเป็นฝ่ายมาซื้อสินค้า แต่ทำไมต้องปล่อยให้รอนาน และการตอบกลับอย่างรวดเร็วจะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถปิดดีลได้เร็วขึ้น ซึ่งเทคนิคที่สำคัญ คือ ผู้ประกอบการต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้า และสามารถตอบคำถามได้อย่างกระจ่างตรงกับความคาดหวังของผู้ซื้อ
ผู้เขียน: Krungsri Guru
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
หน้าที่เข้าชม | 622,325 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 438,351 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |